880 จำนวนผู้เข้าชม |
หลายท่านพยายามจัดการกับปัญหามรดกให้ตรงใจ และยุติธรรม ซึ่งมีสองวิธีที่นิยมในปัจจุบัน วิธีแรกคือ การทำพินัยกรรม กรณีที่ไม่มีการทำพินัยกรรมไว้ล่วงหน้า การตกทอดของทรัพย์มรดกนั้นจะเป็นไปตามลำดับชั้นทายาทโดยธรรมที่กฎหมายกำหนด ซึ่งอาจไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของเจ้าของมรดกและเกิดความไม่พึงพอใจระหว่างผู้รับมรดกได้
ปัจจุบันในประเทศไทยมีอีกหนึ่งช่องทางในการส่งต่อมรดกที่ง่ายและได้รับความนิยมมากขึ้น ก็คือ การซื้อประกันชีวิต
ตัวอย่างเช่น นาย A อายุ 50 ปี มีทรัพย์สินเป็นธุรกิจมูลค่า 30 ล้าน เงินฝากในธนาคาร 25 ล้าน และยังมีเงินสดไว้ใช้เองตอนเกษียณอีก 15 ล้าน โดยนาย A มีความตั้งใจที่จะส่งต่อมรดกให้กับลูกชายทั้งสองคน คือ นาย B และ นาย C แต่ไม่ได้มีการวางแผนจัดการมรดกไว้ล่วงหน้าแต่อย่างใด ทั้งนี้ นายB มีความตั้งใจที่จะดำเนินธุรกิจต่อจากคุณพ่อ ตรงกันข้ามกับนาย C ที่ไม่มีความสนใจที่จะบริหารธุรกิจดังกล่าว
กรณีที่ นาย A ไม่วางแผนทำประกันชีวิต
ต่อมานาย A เสียชีวิตลง (สมมุติว่าได้ใช้เงินเกษียณ 15 ล้าน หมดพอดี) ส่งผลให้นาย B และ นาย C มีสิทธิได้รับการแบ่งมรดกทายาทในสัดส่วนที่เท่าๆ กัน มูลค่า 55 ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจคนละ 15 ล้านบาท และเงินสดคนละ 12.5 ล้านบาท จากการแบ่งมรดกดังกล่าว ส่งผลให้ นาย C ต้องมีส่วนในการบริหารธุรกิจร่วมกับนาย B ทั้งที่ตนไม่มีความสนใจตั้งแต่แรกและก่อให้เกิดความขัดแย้งในการบริหารธุรกิจร่วมกันในเวลาต่อมา
กรณีที่ นาย A วางแผนทำประกันชีวิต
ในกรณีเดียวกันนี้ หากนาย A เลือกที่จะทำประกันชีวิตความคุ้มครอง 30 ล้านบาทให้นายC ด้วยการแบ่งเงินฝากที่มีในธนาคาร 25 ล้านบาท มาชำระเบี้ยประกันประมาณ 15 ล้านบาท และเก็บเงิน 10 ล้านบาทที่เหลือในธนาคารไปเป็นเงินสำรองในยามเกษียณให้กับตนเอง
หากต่อมานาย A ได้เสียชีวิตลง จะส่งผลให้เงินจากการเอาประกันภัยมูลค่า 30 ล้านบาท ตกเป็นของผู้รับประโยชน์ คือ นาย C ด้วยการแบ่งเงิน 15 ล้านบาท มาซื้อประกันชีวิต ซึ่งถือว่ามีความคุ้มค่าและมีความแน่นอนสูง
ด้านนายB จะได้รับมรดกในรูปของธุรกิจมีมูลค่า30ล้านบาทเช่นกัน
สรุปได้ว่า เกิดความพึงพอใจกับทุกฝ่าย คือ ก่อนเสียชีวิตนาย A มีเงินใช้จ่ายในยามเกษียณที่เพิ่มขึ้น 10 ล้านบาท จากเดิม 15 ล้าน เป็น 25 ล้านบาท โดยมั่นใจได้ว่าหากวันไหนที่เขาจากไป ลูกชายของเขาทั้งสองคนก็จะได้รับมรดกเท่าๆกัน และ นาย B ได้รับมรดกเป็นธุรกิจมูลค่า 30 ล้านบาทพร้อมมีสิทธิเต็มที่ในการบริหารธุรกิจที่ตนเองมีความถนัด สุดท้าย นาย C ได้รับมรดกในรูปของเงินสด 30 ล้านบาท จากประกันชีวิตไปทำในสิ่งที่ตนเองมีความถนัดและสนใจได้